สตรอเบอร์รี่สดมีรสหวาน ชุ่มฉ่ำและน่ารับประทาน แต่จะเสียเร็วหากไม่ได้เก็บรักษาไว้อย่างถูกต้อง ไม่ว่าคุณจะเก็บเองหรือซื้อจากตลาด การรู้วิธีจัดเก็บสตรอเบอร์รี่อย่างถูกต้องจะช่วยรักษารสชาติ เนื้อสัมผัสและความสดของสตรอเบอร์รี่ได้นานขึ้นหลายวัน ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับง่ายๆ แต่มีประสิทธิภาพในการรักษาความสดของสตรอเบอร์รี่ของคุณ
สตรอเบอร์รี่เป็นผลไม้ที่เสียค่อนข้างง่าย แต่มีหลายวิธีที่จะช่วยยืดอายุความสดใหม่ของสตรอเบอร์รี่ได้นานขึ้นเคล็ดลับที่น่าสนใจ:
1. ห้ามล้างก่อนเก็บ (ถ้ายังไม่รีบใช้ทันที):
นี่คือเคล็ดลับสำคัญที่สุด! น้ำและความชื้นจะทำให้สตรอเบอร์รี่เน่าเสียและขึ้นราเร็วขึ้นมาก
ควรล้างสตรอเบอร์รี่ก่อนรับประทานหรือนำไปใช้ทันทีเท่านั้น
2. คัดแยกผลที่เสีย:
ก่อนเก็บ ให้ตรวจสอบสตรอเบอร์รี่แต่ละลูก คัดลูกที่ช้ำ นิ่ม หรือมีเชื้อราออกทันที เพราะเชื้อราสามารถแพร่กระจายไปสู่ผลอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็ว
3. การใช้ภาชนะและการรองด้วยกระดาษซับความชื้น:
ภาชนะ: ควรใช้ภาชนะที่มีรูระบายอากาศ (เช่น กล่องพลาสติกเดิมที่มากับสตรอเบอร์รี่ หรือกล่องที่มีรูระบายอากาศ) หรือภาชนะแก้วที่มีฝาปิดแต่ไม่สนิทจนเกินไป (เพื่อให้มีอากาศถ่ายเทบ้าง)
กระดาษซับความชื้น: ปูกระดาษทิชชูอเนกประสงค์ หรือกระดาษซับน้ำไว้ที่ก้นภาชนะ เพื่อช่วยดูดซับความชื้นส่วนเกิน
จัดเรียง: วางสตรอเบอร์รี่เรียงเป็นชั้นเดียว ไม่วางทับกันแน่นเกินไป เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้ทั่วถึง และลดการช้ำของผล
อาจจะวางกระดาษทิชชูซับความชื้นอีกชั้นด้านบนก่อนปิดฝา
4. เก็บในตู้เย็น:
สตรอเบอร์รี่ควรเก็บไว้ในตู้เย็นในช่องแช่ผักหรือช่องแช่เย็นปกติ ที่อุณหภูมิประมาณ 1-4°C อุณหภูมิที่เย็นจะช่วยชะลอกระบวนการเน่าเสียได้ดีที่สุด
5. วิธีแช่น้ำส้มสายชู (เพื่อยืดอายุได้นานขึ้น):
วิธีนี้ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและสปอร์ของเชื้อราที่อาจทำให้สตรอเบอร์รี่เสีย
อัตราส่วน: ผสมน้ำส้มสายชู (น้ำส้มสายชูขาว) 1 ส่วน กับน้ำเปล่า 3-10 ส่วน (บางแหล่งแนะนำ 1:10 บางแหล่ง 1:3 ขึ้นอยู่กับปริมาณสตรอเบอร์รี่)
แช่: นำสตรอเบอร์รี่ (ทั้งลูกโดยไม่ต้องเด็ดขั้ว) ลงแช่ในน้ำที่ผสมไว้ประมาณ 5-10 นาที
ล้างและผึ่งให้แห้งสนิท: ล้างสตรอเบอร์รี่ด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งให้ทั่วถึง เพื่อล้างกลิ่นน้ำส้มสายชูออก จากนั้น สำคัญมาก คือต้องผึ่งหรือซับสตรอเบอร์รี่ให้แห้งสนิทที่สุดเท่าที่จะทำได้ อาจใช้กระดาษทิชชูซับเบาๆ หรือใช้เครื่องปั่นผักสลัด (โดยรองด้วยกระดาษทิชชู)
เมื่อแห้งสนิทแล้ว ให้เก็บในภาชนะที่มีกระดาษซับความชื้นตามข้อ 3
วิธีนี้สามารถช่วยให้สตรอเบอร์รี่อยู่ได้นานถึง 1-2 สัปดาห์
6. การแช่แข็ง (เพื่อเก็บรักษาระยะยาว):
หากต้องการเก็บสตรอเบอร์รี่ไว้นานเป็นเดือน (6-12 เดือน) การแช่แข็งเป็นวิธีที่ดีที่สุด เหมาะสำหรับการนำไปทำสมูทตี้ ไอศกรีม หรือขนมอบ
ขั้นตอน:
ล้างสตรอเบอร์รี่ให้สะอาด และเด็ดขั้วออก (ถ้าต้องการ)
ผึ่งหรือซับให้แห้งสนิท
วางเรียงสตรอเบอร์รี่บนถาดหรือแผ่นอบที่ปูกระดาษรองอบ (ไม่ให้ติดกัน)
นำเข้าช่องฟรีซจนแข็งตัว
เมื่อแข็งตัวแล้ว ค่อยย้ายสตรอเบอร์รี่ไปใส่ในถุงซิปล็อกสำหรับแช่แข็ง หรือภาชนะสุญญากาศ ไล่อากาศออกให้มากที่สุด
นำกลับไปแช่แข็ง
เคล็ดลับหลัก:
อย่าล้างก่อนเก็บ (ถ้ายังไม่ใช้)
คัดลูกเสียทิ้ง
รักษาให้แห้งที่สุด
ใช้ภาชนะที่เหมาะสม (มีรูระบายอากาศ หรือรองกระดาษซับความชื้น)
เก็บในตู้เย็น
สำหรับระยะยาว: แช่แข็ง
การดูแลสตรอเบอร์รี่อย่างถูกวิธีจะช่วยให้คุณได้เพลิดเพลินกับความสดอร่อยของมันได้นานยิ่งขึ้น
