ปลาหมึกทอดเป็นเมนูที่คนรักอาหารทะเลหลายคนไม่อาจต้านทานได้ ปลาหมึกชุบแป้งทอดกรอบสีเหลืองทอง สอดไส้ปลาหมึกนุ่มฉ่ำ กลายเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยและของว่างยอดนิยมทั่วโลก ปัญหาหนึ่งที่พ่อครัวแม่ครัวหลายคนมักพบเจอคือ แป้งทอดมักจะหลุดร่อนระหว่างทอด ทำให้ตัวปลาหมึกดูไม่สวยและมันเยิ้ม เพื่อให้ได้ปลาหมึกทอดคุณภาพระดับภัตตาคาร
เคล็ดลับในการทอดปลาหมึกให้แป้งเกาะติดเนื้อปลาหมึกและกรอบอร่อย นี่คือเคล็ดลับและเทคนิคจากผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยให้แป้งทอดติดแน่นกับปลาหมึกได้อย่างสมบูรณ์แบบทุกครั้ง
1. เลือกปลาหมึกสด
ความสดมีบทบาทสำคัญต่อเนื้อสัมผัสและรสชาติสุดท้ายของปลาหมึกทอด ปลาหมึกสดมีเนื้อแน่น เงา และมีกลิ่นทะเลอ่อนๆ หากใช้ปลาหมึกแช่แข็ง ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าละลายน้ำแข็งและสะเด็ดน้ำให้แห้งก่อนนำไปปรุงอาหาร ความชื้นที่มากเกินไปอาจทำให้แป้งไม่ติดกัน
เคล็ดลับ:ซับปลาหมึกแต่ละชิ้นให้แห้งด้วยกระดาษทิชชู่ก่อนนำไปคลุกแป้งหรือแป้งทอด พื้นผิวที่แห้งจะช่วยให้แป้งติดแน่นยิ่งขึ้นระหว่างทอด
2. ทำความสะอาดและเตรียมปลาหมึกให้ถูกต้อง
ก่อนเริ่มคลุกปลาหมึก ให้ทำความสะอาดให้สะอาดโดยเอาเครื่องใน ปาก และกระดูกอ่อนใสออก หั่นปลาหมึกเป็นชิ้นหรือวงเท่าๆ กันเพื่อให้สุกทั่วถึง
เคล็ดลับ:ขูดเบาๆ ด้านในของวงแหวนปลาหมึกแต่ละวงด้วยรอยตัดเฉียงๆ เพื่อช่วยให้แป้งติดแน่นยิ่งขึ้น และยังทำให้ปลาหมึกนุ่มขึ้นหลังทอดอีกด้วย
3. ใช้แป้งชนิดที่ถูกต้อง
ชนิดของแป้งที่ใช้มีผลต่อการเกาะตัวของแป้งกับปลาหมึก การผสมแป้งอเนกประสงค์กับแป้งข้าวโพดหรือแป้งข้าวเจ้าจะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คือ กรอบแต่เบา แป้งข้าวโพดช่วยเพิ่มความกรุบกรอบ ในขณะที่แป้งข้าวเจ้าช่วยป้องกันไม่ให้แป้งดูดซับน้ำมันมากเกินไป
อัตราส่วนที่แนะนำ:
แป้งอเนกประสงค์ 2 ส่วน
แป้งข้าวโพดหรือแป้งข้าวเจ้า 1 ส่วน
4. แช่เย็นแป้ง
แป้งที่เย็นจะช่วยสร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนกับน้ำมันร้อน ซึ่งทำให้แป้งเคลือบกรอบและคงตัวมากขึ้น ก่อนทอด ควรพักแป้งไว้ในตู้เย็นอย่างน้อย15-20นาที
คุณสามารถใช้แป้งธรรมดาๆ ที่ทำจาก:
น้ำเย็นหรือโซดา
ส่วนผสมแป้ง (ตามด้านบน)
เกลือและพริกไทยเล็กน้อย
ทางเลือก:เพิ่มผงฟูเล็กน้อยเพื่อให้กรอบยิ่งขึ้น
5. เคลือบปลาหมึกเป็นขั้นตอน
เพื่อให้แน่ใจว่าแป้งจะเกาะติดดี ให้เคลือบปลาหมึกเป็นสองขั้นตอน:
ชุบชิ้นปลาหมึกในแป้งแห้งบางๆ เพื่อดูดซับความชื้นที่เหลืออยู่
จุ่มลงในแป้งที่เย็นแล้วปล่อยให้แป้งส่วนเกินหยดออกก่อนทอด
วิธีการเคลือบสองชั้นนี้ช่วยสร้างเปลือกแข็งที่เกาะติดกับปลาหมึกอย่างแน่นหนา
6. ใช้อุณหภูมิน้ำมันที่เหมาะสม
อุณหภูมิของน้ำมันเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุด หากน้ำมันเย็นเกินไป ปลาหมึกจะดูดซับน้ำมันและแป้งจะลอกออก หากร้อนเกินไป แป้งจะไหม้ก่อนที่ปลาหมึกจะสุก
อุณหภูมิที่เหมาะสม: 170–180°C (340–355°F)
คุณสามารถทดสอบได้โดยการหย่อนแป้งลงในน้ำมันเพียงเล็กน้อย หากแป้งขึ้นฟูทันทีและมีฟองขึ้นเรื่อยๆ แสดงว่าน้ำมันพร้อมแล้ว
7. หลีกเลี่ยงการใส่ของมากเกินไป
การใส่ปลาหมึกมากเกินไปในคราวเดียวจะทำให้อุณหภูมิน้ำมันลดลง ทำให้แป้งแยกตัวและแฉะ ควรทอดทีละน้อยเพื่อรักษาความร้อนให้คงที่และเพื่อให้แน่ใจว่าปลาหมึกแต่ละชิ้นสุกทั่วถึงและกรอบ
8. อย่าปรุงนานเกินไป
ปลาหมึกสุกเร็วมาก — โดยปกติจะใช้เวลา1-2 นาทีต่อชุด การปรุง นานเกินไปจะทำให้ปลาหมึกเหนียวและเหนียว เมื่อแป้งเริ่มเป็นสีเหลืองทอง ให้นำปลาหมึกออกจากพิมพ์ทันที แล้วสะเด็ดน้ำบนกระดาษทิชชู่
9. พักไว้ก่อนเสิร์ฟ
หลังจากทอดแล้ว ให้พักปลาหมึกไว้บนตะแกรงหรือกระดาษทิชชู่ประมาณ 1-2 นาที เพื่อซับน้ำมันส่วนเกินออก วิธีนี้จะช่วยให้ชั้นเคลือบกรอบแทนที่จะเหนียวเหนอะหนะ หลีกเลี่ยงการคลุมปลาหมึกแน่นเกินไป เพราะไอน้ำที่ติดอยู่จะทำให้ชั้นเคลือบกรอบนิ่มลง
10. ปรุงรสและเสิร์ฟ
ปรุงรสปลาหมึกทอดใหม่ๆ ด้วยเกลือ พริกไทย หรือพริกป่นเล็กน้อยขณะที่ยังร้อนอยู่ เพิ่มความอร่อยด้วยผงกระเทียม ปาปริก้า หรือสาหร่ายป่นเล็กน้อย เสิร์ฟพร้อม มายองเนสร สเผ็ดซอสพริกหวานหรือซอสทาร์ทาร์เพื่อรสชาติที่ลงตัว
เคล็ดลับโบนัส: ลองแป้งเทมปุระดูสิ
ถ้าคุณชอบแป้งทอดที่เบาและกรอบเป็นพิเศษ ลองแป้งเทมปุระที่ใช้โซดาเย็นจัด แป้งสาลี และไข่แดงผสมเบาๆ (อย่าตีแรงเกินไป) เพื่อไม่ให้มีก้อนแป้งเกาะ ซึ่งจะช่วยให้เนื้อสัมผัสเบาบาง กรุบกรอบ และติดแน่นกับปลาหมึก
ปลาหมึกทอดที่สมบูรณ์แบบไม่ได้ขึ้นอยู่กับสูตรเพียงอย่างเดียว แต่ยังขึ้นอยู่กับเทคนิคและการเตรียมด้วย การทำให้ปลาหมึกแห้ง แช่เย็นแป้ง ใช้แป้งผสมที่เหมาะสม และรักษาอุณหภูมิน้ำมันให้เหมาะสม คุณก็จะได้ปลาหมึกที่กรอบ เหลืองทอง เคลือบด้วยซอส อร่อยทุกครั้ง
ไม่ว่าคุณจะเพลิดเพลินกับมันในฐานะของว่าง อาหารเรียกน้ำย่อย หรืออาหารจานเคียง ปลาหมึกทอดโฮมเมดของคุณก็สามารถเทียบชั้นกับร้านอาหารทะเลที่คุณชื่นชอบได้
