หากคุณกำลังมองหาเมนูมังสวิรัติรสชาติอบอุ่นหัวใจ หอมกรุ่นและนุ่มลิ้นจนยากจะต้านทานกะหล่ำปลีตุ๋นเห็ดชิตาเกะคือตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบ สูตรคลาสสิกแบบเอเชียไม่มีส่วนผสมของสัตว์ เครื่องเทศแรงๆและไม่มีส่วนผสมฉุน ให้รสชาติหวานตามธรรมชาติจากกะหล่ำปลีตุ๋นไฟอ่อนและกลิ่นหอมอูมามิเข้มข้นจากเห็ดชิตาเกะแห้งเป็นเมนูที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นหัวใจเข้ากันได้ดีกับข้าวหอมมะลินึ่งข้าวกล้องหรือข้าวต้มร้อนๆ
กะหล่ำปลีตุ๋นเห็ดหอมสูตรเจ เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมมากในช่วงเทศกาลกินเจ เพราะมีความหอมอร่อย กลมกล่อม และกะหล่ำปลีจะเปื่อยนุ่มชุ่มน้ำซุป อาหารจานนี้ทำง่าย ผ่อนคลาย และมีคุณค่าทางโภชนาการ เหมาะสำหรับทุกคนที่ชอบทานอาหารคลีน ชื่นชอบกลิ่นหอมของเห็ด หรือชอบรับประทานอาหารมังสวิรัติในโอกาสพิเศษ
เคล็ดลับสำคัญที่ทำให้อร่อยนุ่มและกลิ่นหอมอบอวล:
การทอด/จี่กะหล่ำปลีและเห็ดหอม:
กะหล่ำปลี: ก่อนนำไปตุ๋น ให้นำกะหล่ำปลีที่หั่นเป็นชิ้นใหญ่ หรือผ่าเป็นซีก (ไม่ให้ขาดจากกัน) ไป ทอดหรือจี่ในน้ำมันเล็กน้อย ให้ผิวนอกเหลืองสวยและเกรียมเล็กน้อย วิธีนี้จะช่วยให้กะหล่ำปลีมีกลิ่นหอมน่ารับประทาน ลดกลิ่นเหม็นเขียว และทำให้กะหล่ำปลียังคงรูปไม่แตกกระจายเวลานำไปตุ๋นเป็นเวลานาน
เห็ดหอม: ควรนำเห็ดหอมแห้งที่แช่น้ำจนนิ่มแล้วไป ทอดในน้ำมันต่อ เพื่อให้เห็ดหอมมีกลิ่นหอมฟุ้งและเนื้อสัมผัสดีขึ้น (บางสูตรอาจใช้การผัดแทนการทอด)
ทำไมอาหารจานนี้ถึงโดดเด่น
มังสวิรัติ/เป็นมิตรกับญี่ปุ่นอย่างแท้จริง — ไม่มีเนื้อสัตว์ ไม่มีน้ำปลา ไม่มีผลิตภัณฑ์จากนม
อูมามิธรรมชาติล้ำลึก — เห็ดชิทาเกะช่วยเพิ่มกลิ่นหอมให้กับน้ำซุป
กะหล่ำ ปลีหวานนุ่ม — นุ่มและหอมเนยหลังจากตุ๋น
ง่ายสำหรับผู้เริ่มต้น — ส่วนผสมน้อยและใช้ความพยายามน้อย
อาหารเพื่อสุขภาพที่ให้ความสบายใจ — ไขมันต่ำ ไฟเบอร์สูง ช่วยในการย่อยอาหาร
ส่วนผสม (สำหรับ 2–3 ที่)
กะหล่ำปลีจีนหรือกะหล่ำปลีธรรมดา ½ หัวหั่นเป็นชิ้นใหญ่
เห็ดหอมแห้ง 6–8 ดอกแช่จนนิ่ม (เก็บน้ำแช่ไว้)
กระเทียม 2–3 กลีบบดเบาๆ (ไม่จำเป็นสำหรับสูตร J — ไม่ต้องใส่ถ้าจำเป็น)
ขิง 1–2 ชิ้น(เพิ่มกลิ่นหอมและลด “กลิ่นผัก”)
น้ำแช่เห็ดชิทาเกะ 1 ถ้วย(กรอง)
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ (มังสวิรัติ)
ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนชา(สำหรับแต่งสี ไม่จำเป็น)
น้ำตาลทรายแดงหรือน้ำตาลกรวด 1–2 ช้อนชา
ซอสหอยนางรมมังสวิรัติ 1 ช้อนโต๊ะ(ซอสเห็ด)
น้ำมันพืช 1–2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยขาวและเกลือเล็กน้อยเพื่อปรุงรส
วิธีการปรุงอาหารแบบทีละขั้นตอน
1. เตรียมส่วนผสม
แช่เห็ดหอมแห้งในน้ำอุ่นจนนิ่ม จากนั้นบีบเบาๆ แล้วหั่นเป็นแว่นหรือเก็บไว้ทั้งดอก
กรองและเก็บน้ำแช่ไว้ — จะกลายเป็นน้ำซุปรสชาติดีของคุณ
2. ผัดให้หอม
ตั้งน้ำมันพืชเล็กน้อยในกระทะหรือกระทะจีน
ใส่ขิง (และกระเทียมถ้าใช้) ลงไปแล้วผัดจนมีกลิ่นหอม
ใส่เห็ดลงไปผัดประมาณ 1-2 นาที
3. ใส่กะหล่ำปลีและเครื่องปรุงรส
ใส่กะหล่ำปลีลงไปผัดพอสุก
ใส่ซีอิ๊วขาว ซอสเห็ดหอม และน้ำตาลลงไป ผสมให้เข้ากัน
4. ตุ๋นด้วยไฟอ่อน
เทน้ำแช่เห็ดหอมลงไป
ปิดฝาแล้วเคี่ยวด้วยไฟอ่อนประมาณ15–25 นาทีจนกระทั่งกะหล่ำปลีนิ่มและเป็นมันเงา
5. สัมผัสสุดท้าย
ใส่พริกไทยขาวลงไปแล้วปรุงรสตามชอบ
ปล่อยให้น้ำซุปงวดลงจนข้นขึ้นเล็กน้อยและเป็นมันเงา
เสิร์ฟอุ่นๆ
เคล็ดลับของเชฟเพื่อกลิ่นหอมและเนื้อสัมผัสที่สมบูรณ์แบบ
เป้าหมาย เคล็ดลับ
อูมามิพิเศษ เติมน้ำซุปคอมบุหรือมิรินเล็กน้อย (มังสวิรัติ)
ซอสมันเงา นุ่มละมุน ใช้น้ำตาลกรวดแทนน้ำตาลทรายขาว
กะหล่ำปลีอ่อน เคี่ยวไฟอ่อนๆ อย่าเร่งรีบ
กลิ่นหอมมากขึ้น เก็บเห็ดชิทาเกะทั้งลูกไว้แทนการหั่นเป็นชิ้น
รสชาติแบบร้านอาหาร เติมน้ำมันงาสักหยดตอนท้ายไม่ต้องใส่ตอนปรุง
คู่ที่ดีที่สุด
ข้าวหอมมะลิหรือข้าวญี่ปุ่น
ข้าวกล้องทางเลือกเพื่อสุขภาพที่ดีกว่า
โจ๊กร้อนๆ สำหรับมื้ออาหารที่อ่อนโยนและสบายใจ
เต้าหู้นึ่งหรือผักลวกไว้ข้างๆ
ทำไมคุณถึงอยากทำอาหารนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
อาหารจานนี้เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของการผสมผสานวัตถุดิบจากพืชอย่างเรียบง่าย ให้เป็นเมนูที่มีความหลากหลาย หอมกรุ่น และน่าพึงพอใจอย่างล้ำลึก ประหยัด ดีต่อสุขภาพ และเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น แต่ยังคงความหรูหราพอสำหรับงานเลี้ยงอาหารค่ำแบบมังสวิรัติ
ไม่ว่าคุณจะกำลังรับประทานอาหารมังสวิรัติ ทำอาหารเพื่อสุขภาพ หรือเพียงแค่อยากทานอาหารโฮมเมดที่นุ่มและหอมกรุ่นกะหล่ำปลีตุ๋นเห็ดชิทาเกะก็จะเป็นหนึ่งในสูตรอาหารที่คุณเลือกเสมอ
