แกงเขียวหวานเป็นอาหารคลาสสิกที่ได้รับความนิยมเนื่องจากมีเนื้อมะพร้าวเข้มข้นและมีกลิ่นหอมของสมุนไพรและเครื่องเทศแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลา เป็นอีกเมนูหนึ่งที่โดดเด่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทำจากปลากระพง ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องเนื้อสัมผัสที่เหนียวและยืดหยุ่นตามธรรมชาติ เมื่อปรุงอย่างถูกต้อง ลูกชิ้นปลากระพงจะมีความเหนียวหนึบหนับ ซึ่งเป็นเนื้อสัมผัสที่ได้รับความนิยมอย่างมากในอาหารไทย

การทำแกงเขียวหวานปลากรายให้เหนียวหนึบนั้น หัวใจสำคัญอยู่ที่ การนวดเนื้อปลากรายยิ่งนวดได้ที่เนื้อปลาจะยิ่งเหนียวหนึบเด้งสู้ฟัน
นี่คือวิธีทำอาหารจานนี้ที่บ้านด้วยเนื้อสัมผัสและรสชาติที่สมบูรณ์แบบ
เคล็ดลับการนวดปลากรายให้เหนียวหนึบ:
เลือกเนื้อปลากรายที่สดใหม่: เนื้อปลากรายที่สดจะมีคุณภาพดีกว่าและนวดให้เหนียวหนึบได้ง่ายกว่า
ใช้เนื้อปลากรายขูด: หากซื้อปลากรายเป็นตัว ควรขูดเนื้อปลาเอง พยายามขูดให้ติดก้างเล็กน้อย เพราะก้างจะช่วยเพิ่มความหนึบ
ความเย็นคือสิ่งสำคัญ:
แช่เย็นก่อนนวด: หลังจากขูดเนื้อปลาแล้ว นำไปแช่ตู้เย็นสักพัก (ช่องธรรมดา 3-4 ชั่วโมง หรือช่องฟรีซไม่ถึงชั่วโมง) ให้เนื้อปลาเย็นจัด
ใช้น้ำเย็นจัด/น้ำแข็ง: ในระหว่างการนวด ให้ชุบมือด้วยน้ำเย็นจัด หรือใส่น้ำแข็งก้อนเล็กน้อยลงไปในเนื้อปลาขณะนวด จะช่วยให้เนื้อปลาเซ็ตตัวและเหนียวขึ้น

การนวดด้วยมือ (วิธีดั้งเดิมและได้ผลดี):
ใส่เกลือเล็กน้อย: โรยเกลือเล็กน้อยลงบนเนื้อปลากรายก่อนนวด
นวด ฟาด ปาด: นวดเนื้อปลาด้วยมือไปเรื่อยๆ จนเนื้อปลากลายเป็นสีใสขึ้น ดูเนียนขึ้น และมีความเหนียวหนืด
ฟาดเนื้อปลา: บางสูตรแนะนำให้ปาดเนื้อปลาอยู่ในอุ้งมือ แล้วฟาดลงในอ่างหรือภาชนะที่นวดสัก 4-5 ครั้ง จะช่วยให้เนื้อปลาเหนียวหนึบมากขึ้น
สังเกตความหนึบ: เนื้อปลาที่นวดได้ที่ จะรู้สึกเหนียวหนึบ ไม่ติดมือ และเมื่อลองบีบดูจะเด้งสู้มือ
การใช้เครื่องปั่น (สำหรับบางคน):
บางคนอาจใช้เครื่องปั่นช่วยปั่นเนื้อปลากรายให้ก้างที่ติดมาแหลก แล้วค่อยนำมานวดด้วยมือต่อ
พักเนื้อปลา: หลังจากนวดเสร็จแล้ว อาจนำไปพักในตู้เย็นอีกครั้งก่อนนำไปปั้น

การเตรียมลูกชิ้นปลากราย:
ปั้นลูกชิ้น: เมื่อเนื้อปลากรายเหนียวหนึบได้ที่แล้ว ชุบมือด้วยน้ำเปล่าเล็กน้อย แล้วตักเนื้อปลาปั้นเป็นลูก หรือใช้ช้อนตักเป็นก้อนกลมแบนตามต้องการ
ต้มลูกชิ้น: ต้มลูกชิ้นปลากรายในน้ำเดือด (บางคนอาจเหยาะเกลือลงในน้ำเล็กน้อย) เมื่อลูกชิ้นสุกจะลอยขึ้นมา
แช่น้ำเย็น: ตักลูกชิ้นที่สุกแล้วขึ้นมาแช่ในน้ำเย็นจัดทันที จะช่วยให้ลูกชิ้นคงความเหนียวหนึบและเด้ง

สำหรับแกง:
น้ำพริกแกงเขียวหวาน 1 ช้อนโต๊ะ (ซื้อสำเร็จรูปหรือทำเองก็ได้)
กะทิ 400มล.
น้ำเปล่าหรือน้ำซุปไก่ 200 มล.
มะเขือยาวไทย 1 ถ้วย (หั่นเป็นสี่ส่วน)
มะเขือยาว ½ ถ้วย (ไม่จำเป็น)
ใบมะกรูด 3–4 ใบ (ฉีกเป็นชิ้นๆ)
ใบโหระพา 1 กำมือ
พริกแดง 1 เม็ด (หั่นเป็นแว่นสำหรับตกแต่ง)
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ (ตามชอบ)
น้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนชา (ตามชอบ)
น้ำมันปรุงอาหาร 1 ช้อนโต๊ะ

เคล็ดลับการทำลูกชิ้นปลาให้เหนียวนุ่ม:
ใช้เนื้อปลาเย็น – เนื้อปลาควรเย็นเล็กน้อยก่อนปั่น วิธีนี้จะช่วยให้โปรตีนจับตัวกันได้ดี ทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่เหนียวนุ่มเป็นเอกลักษณ์
เติมเกลือลงไปในขณะที่โขลกหรือผสม – เกลือจะช่วยทำให้เส้นโปรตีนแน่นขึ้น ทำให้เนื้อเนียนและยืดหยุ่น
โขลกหรือผสมให้เข้ากัน – คุณสามารถใช้เครื่องปั่นอาหารได้ แต่พ่อครัวไทยโบราณจะตำปลาด้วยครกและสากหรือด้วยมือเพื่อให้เนื้อสัมผัสดีขึ้น
ผสมน้ำเย็นทีละน้อย – เติมน้ำเย็นประมาณ 1 ช้อนโต๊ะลงในเนื้อปลาขณะผสม วิธีนี้จะช่วยให้เนื้อปลามีความยืดหยุ่นมากขึ้น
ทดสอบการเด้ง – โยนลูกบอลเล็กๆ ลงในน้ำเดือด หากลูกบอลลอยน้ำและรู้สึกเด้งเมื่อกด แสดงว่าลูกบอลนั้นสมบูรณ์แบบ

คำแนะนำในการปรุงอาหาร:
เตรียมลูกชิ้นปลา :
ปั่นเนื้อปลากรายที่เย็นแล้วกับเกลือให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเหนียวนุ่ม
ค่อยๆ เติมน้ำเย็นลงไปในขณะที่ยังผสมต่อไป
จุ่มมือให้เปียก ปั้นเป็นลูกกลมๆ แล้วนำไปแช่ในน้ำเดือด เมื่อลอยขึ้นแล้ว ให้เอาออกและพักไว้

ทำฐานแกง :
ตั้งน้ำมันในหม้อบนไฟปานกลาง ใส่พริกแกงเขียวหวานลงไป ผัดจนมีกลิ่นหอม
ค่อยๆ เติมกะทิลงไปประมาณครึ่งหนึ่ง และเคี่ยวจนน้ำมันแยกตัว (คุณจะเห็นชั้นกะทิที่มันเงาอยู่ด้านบน)
เติมกะทิที่เหลือและน้ำหรือน้ำสต็อกลงไป

ปรุงผักและลูกชิ้นปลา :
ใส่พริกแกงไทยลงไป เคี่ยวจนสุกนิ่ม
ใส่ลูกชิ้นปลาที่ปรุงสุกแล้วลงไป
ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ ชิมรสตามชอบ
เติมใบมะกรูดลงไปแล้วเคี่ยวต่ออีกสักครู่

เสร็จแล้วเสิร์ฟ :
ปิดไฟแล้วใส่โหระพาและพริกแดงหั่นแว่นลงไป
เสิร์ฟพร้อมข้าวหอมมะลินึ่งหรือเส้นก๋วยเตี๋ยว

แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากรายนอกจากจะมีรสชาติที่อร่อยแล้วยังช่วยขับเน้นให้เห็นถึงเนื้อสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทย ลูกชิ้นปลากรายที่เคี้ยวหนึบถือเป็นพระเอกของเมนูนี้ และด้วยเทคนิคง่ายๆ แต่ได้ผลเหล่านี้ คุณก็สามารถนำอาหารไทยแท้ๆ แสนอร่อยนี้มาปรุงเป็นอาหารจานโปรดในครัวของคุณได้

By noi