ฟักทองเป็นพืชที่ได้รับความนิยมในหมู่เกษตรกรและนักจัดสวน เนื่องจากฟักทองเป็นพืชที่มีความหลากหลายเป็นที่ต้องการของตลาดและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง อย่างไรก็ตาม การใส่ปุ๋ยอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ฟักทองเติบโตอย่างแข็งแรงและได้ผลผลิตมาก การให้ปุ๋ยฟักทองอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ได้ผลผลิตที่ดี ผลใหญ่ เนื้อแน่นและมีคุณภาพ
ฟักทองเป็นพืชที่กินอาหารมาก ฟักทองต้องการสารอาหารที่อุดมสมบูรณ์และสมดุลตลอดช่วงการเจริญเติบโต ธาตุอาหารหลัก 3 อย่างที่ฟักทองต้องการ การใส่ปุ๋ยต้องพิจารณาจาก ระยะการเจริญเติบโต ของฟักทอง และ สภาพดิน ในแต่ละพื้นที่
การเตรียมดินและการรองพื้น
ก่อนปลูกฟักทอง ควรเตรียมดินให้ดีและใส่ปุ๋ยอินทรีย์เพื่อปรับปรุงบำรุงดินก่อนเสมอ ฟักทองชอบดินร่วนปนทรายที่มีการระบายน้ำดี และมีค่า pH อยู่ระหว่าง 6.0-6.8 (ค่อนข้างเป็นกรดเล็กน้อยถึงเป็นกลาง)
ไถพรวนดิน: ควรไถดินให้ลึกประมาณ 25-30 เซนติเมตร เนื่องจากฟักทองเป็นพืชที่มีระบบรากลึก
ปรับสภาพดิน: ถ้าดินเป็นกรดมากเกินไป (pH ต่ำกว่า 5.5) สามารถปรับด้วยปูนขาว แต่ถ้า pH สูงไป (เกิน 7.5) ให้ใช้พีทมอสหรือกำมะถัน
เพิ่มอินทรียวัตถุ: ใส่ ปุ๋ยคอก หรือ ปุ๋ยหมัก ที่ย่อยสลายดีแล้ว อัตรา 300-500 กิโลกรัมต่อไร่ หรือรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยหมักและเชื้อไตรโคเดอร์มาเพื่อป้องกันโรครากเน่าโคนเน่า
ปุ๋ยรองพื้น: อาจใช้ปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 หรือ 12-24-12 ร่วมกับ 15-0-0 ในอัตราส่วน 1:1 ประมาณ 10-15 กิโลกรัมต่อไร่ หรือตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญในพื้นที่
เทคนิคการใส่ปุ๋ยตามระยะการเจริญเติบโต
การใส่ปุ๋ยฟักทองจะแบ่งเป็นระยะหลักๆ ดังนี้:
1. ระยะแรกของการเจริญเติบโต (10-15 วันหลังปลูก/หยอดเมล็ด)
ช่วงนี้ฟักทองต้องการไนโตรเจนสูงเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของใบและลำต้นที่แข็งแรง
ปุ๋ย: ใช้ปุ๋ยที่มี ไนโตรเจนสูง เช่น ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) ในอัตรา 10-15 กิโลกรัมต่อไร่ หรือใช้ปุ๋ย สูตร 16-16-16 เพื่อบำรุงต้นให้แข็งแรงและสะสมอาหารได้ดี
วิธีการ: โรยข้างแถวแล้วพรวนดินกลบ หรือละลายน้ำรด ควรให้น้ำตามทันที
2. ระยะเจริญเติบโตทางลำต้นและใบ (21-25 วัน หรือ 30-35 วันหลังปลูก)
เมื่อฟักทองเริ่มเจริญเติบโตและทอดยอด ต้องการธาตุอาหารที่สมดุลมากขึ้น
ปุ๋ย: ใช้ปุ๋ย สูตร 14-14-21 หรือ 15-15-15 โรยรอบๆ ต้น ประมาณ 1 กำมือต่อต้น หรือตามคำแนะนำของปุ๋ยแต่ละยี่ห้อ นอกจากนี้ อาจเสริมด้วยจุลธาตุ
วิธีการ: โรยรอบๆ ต้น แล้วรดน้ำตาม
3. ระยะเริ่มออกดอกและติดผลอ่อน (ประมาณ 50-55 วันหลังปลูก หรือเมื่อฟักทองเริ่มออกดอก)
ฟักทองจะต้องการฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมสูงขึ้น เพื่อส่งเสริมการออกดอก การติดผล และความแข็งแรงของผล
ปุ๋ย: ใช้ปุ๋ย สูตร 14-14-21 หรือ 13-13-21 หรือ 5-15-15 โรยรอบๆ ต้น (ประมาณ 1 กำมือ) เพื่อช่วยในการสร้างดอกและบำรุงผลอ่อน
วิธีการ: โรยรอบๆ ต้น แล้วรดน้ำตาม
4. ระยะบำรุงผลสร้างเนื้อ (ฟักทองน้ำหนักประมาณ 2-3 ขีด ถึงระยะใกล้เก็บเกี่ยว)
เป็นช่วงที่ฟักทองต้องการโพแทสเซียมสูงมาก เพื่อขยายผล เพิ่มน้ำหนัก สร้างแป้ง และให้เนื้อฟักทองมีสีสวยตามต้องการ
ปุ๋ย: ใช้ปุ๋ย สูตร 13-13-24 หรือ 0-0-50 (โพแทสเซียมสูง) อัตรา 25-30 กิโลกรัมต่อไร่
วิธีการ: โรยรอบๆ ต้น หรือใช้วิธีให้น้ำปุ๋ย (Fertigation) เพื่อให้พืชได้รับสารอาหารอย่างต่อเนื่อง
ข้อควรระวัง: ก่อนเก็บเกี่ยวประมาณ 15 วัน ควรงดการรดน้ำ เพื่อให้ผลฟักทองสะสมแป้งได้ดีและเก็บรักษาได้นานขึ้น
เคล็ดลับเพิ่มเติมในการใส่ปุ๋ยฟักทอง
การทดสอบดิน: ควรทดสอบดินก่อนการปลูก เพื่อทราบระดับธาตุอาหารในดินและค่า pH จะช่วยให้การใส่ปุ๋ยมีประสิทธิภาพสูงสุด
ไม่ใส่ปุ๋ยมากเกินไป: การใส่ปุ๋ยมากเกินไป โดยเฉพาะไนโตรเจน อาจทำให้ฟักทองมีแต่ใบ ผลผลิตต่ำ หรือเกิดโรคได้ง่าย
ปุ๋ยอินทรีย์: การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ เช่น ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก หรือขี้เถ้าถ่าน สามารถช่วยปรับปรุงโครงสร้างดิน เพิ่มธาตุอาหาร และส่งเสริมสุขภาพของดินในระยะยาวได้
ปุ๋ยทางใบ: อาจพิจารณาเสริมด้วยปุ๋ยทางใบที่มีธาตุอาหารรอง เช่น แคลเซียม โบรอน เพื่อช่วยในการติดผลและการพัฒนาของผล
การให้น้ำ: การรดน้ำที่เพียงพอและสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะหลังการใส่ปุ๋ย เพื่อให้ปุ๋ยละลายและพืชสามารถดูดซึมไปใช้ได้
การคลุมดิน: การคลุมดินด้วยฟางข้าวหรือวัสดุอินทรีย์อื่นๆ ช่วยรักษาความชื้นในดิน ลดการเกิดวัชพืช และเมื่อย่อยสลายก็จะเพิ่มอินทรียวัตถุให้ดิน
การดูแลเอาใจใส่และสังเกตการเจริญเติบโตของฟักทองอย่างใกล้ชิด จะช่วยให้คุณปรับการใส่ปุ๋ยให้เหมาะสมกับสภาพแปลงและให้ได้ผลผลิตฟักทองคุณภาพดีที่สุด